สมุนไพรรักษาโรคกระเพาะ อักเสบเรื้อรัง รักษาได้

0
1231

โรคกระเพาะ คือ ภาวะที่เกิดแผลที่เยื่อบุกระเพาะหรือลำไส้ ทำให้เกิดอาการปวดท้อง บริเวณเหนือลิ้นปี่ จุก เสียด หรือ แสบร้อน อาจจะมีอากรเมื่อปวดเมื่อตอนหิว หรือหลังจากการอาหารรสจัด โรคกระเพาะอาจเกิดจากการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารมากเกินไป เกิดจากการทำลายเยื่อบุกระเพาะอาหารจากการทานอาหารรสจัด เครื่องดื่มแอลกฮอร์ การทานอาหารไม่ตรงเวลา หรืออาจเกิดจากเชื้อโรค เป็นไปได้หลายสาเหตุคะ

สมุนไพรรักษาโรคกระเพาะหากสาเหตุของโรคเกิดจากพฤติกรรมการทานอาหารของตนเอง ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยน และเลี่ยงปัจจัยต่างๆที่อาจก่อให้เกิดโรคหรือทำให้อาการกำเริบ นอกจากยาแผนปัจจุบันแล้ว ยังมีพืชและผลไม้ บางชนิดที่ช่วยบรรเทาอาการของโรคกระเพาะได้ มาลองดูกันนะคะว่ามีอะไรบ้าง

เริ่มด้วย สมุนไพรรักษาโรคกระเพาะ ที่มีสรรพคุณเด่นในการรักษาโรคกระเพาะ อย่าง กระเจี๊ยบเขียว เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหารและลำไส้ ในฝักกระเจี๊ยบมีสารที่เป็นเมือก จำพวกเพ็กติน (Pectin) และกัม (Gum) ช่วยเคลือบแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ ป้องกันไม่ให้เกิดการลุกลามของแผลได้ดี ช่วยยับยั้งเชื้อแบตทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดแผลในกระเพาะอาหารได้ นอกจากนี้ยังมีเป็นระบายอ่อนๆและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอีกด้วย เมนูแนะนำสำหรับกระเจี๊ยบเขียว คือใช้เป็นผักลวกทานกับน้ำพริก หรือผัดกระเจี๊ยบเขียวน้ำมันหอย ก็น่าทานคะ

ต่อด้วยสมุนไพรสาระพัดประโยชน์อย่าง ขมิ้นชัน ก็เป็นสมุนไพรรักษาโรคกระเพาะอีกชนิดที่พบสารเคอคิวมินอยด์ที่อยู่ในเหง้าหรือหัวของขมิ้นชัน ช่วยป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ลดการอักเสบ กระตุ้นการขับน้ำดีจึงทำให้ระบบการย่อยอาหารดีขึ้น ทั้งยังช่วยกระตุ้นการหลั่งของสาร มิวซิน ซึ่งเป็นสารเคลือบกระเพาะอาหาร จึงทำให้แผลดีขึ้น มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และน้ำมันในขมิ้นชันยังช่วยเรื่องท้องอืด ท้องเฟ้อได้ดี เนื่องจากในปัจจุบันนี้ขมิ้นชันถูกนำมาบรรจุใส่แคปซูลแล้ววางจำหน่ายอย่างแพร่หลาย การเลือกซื้อควรพิจารณาว่าสินค้าได้รับขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หรือไม่ , ดูวันเดือนปีที่ผลิต วันหมดอายุ และดูบรรจุภัณฑ์ว่าได้มาตราฐานหรือไม่ เป็นต้น เราก็จะได้ทานสมุนไพรที่ปลอดภัยจริงๆคะ

และผลไม้ไทยๆ หาง่าย ราคาไม่แพง อย่าง กล้วยน้ำหว้า ก็มีสรรพคุณช่วยรักษาโรคกระเพาะได้อย่างดี กล้วยน้ำหว้าใช้ควบคุมโรคลำไส้เป็นแผล เนื่องจากเนื้อกล้วยมีความเป็นกลาง ไม่เป็นกรด ทำให้ไม่ระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารและยังช่วยเคลือบผนังลำไส้ได้ดีอีกด้วย กล้วยห่ามๆยังมีสารเซโรโทนนินช่วยกระตุ้นการสร้างเยื่อเมือกของผนังกระเพาะอาหารให้มากขึ้น จึงช่วยเคลือบแผลในกระเพาะอาหาร ยังมีสูตรตำรายาแผนโบราณกล่าวไว้ว่า กล้วยน้ำหว้าดิบ สามารถป้องกันการเจริญของเชื้อแบคทีเรียได้ดี จึงช่วยให้ป้องกันผนังกระเพาะอาหารและลำไส้จากเชื้อโรคและจากรสเผ็ดของพริก โดยนำกล้วน้ำหว้าดิบไม่ต้องปลอกเปลือกนำไปตากแดดให้แห้งหรืออบ แล้วนำมาบดให้ละเอียด ใช้ชงน้ำร้อนดื่ม หรือ น้ำผสมกับน้ำซาวข้าว หรือ น้ำผึ้ง ทานก่อนรับประทานอาหารสัก 30 นาที และก่อนนอน มีหลายท่านนำไปใช้แล้วอาการดีขึ้นจริงๆคะ

ถึงแม้ว่าโรคกระเพาะอาหารจะไม่ได้เป็นโรคที่ร้ายแรง แต่ก็สร้างความทรมานแก่ผู้ป่วยอย่างมากหากอาการปวดท้องกำเริบและถ้าไม่ทำการรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ปล่อยให้เป็นแผลเรื้อรังเป็นเวลานาน อาจจะกลายเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหารได้ในอนาคตคะ หากเรายังไม่หันมาใส่ใจกับตัวเอง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เสี่ยงให้เกิดโรค จะมียาสมุนไพรรักษาโรคกระเพาะราคาแพงๆ หรือยาดีแค่ไหน สุดท้ายเราก็กลับมาเป็นโรคเหมือนเดิม การออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทำจิตใจให้สดชื่น ทานอาหารที่เป็นประโยชน์และพักผ่อนให้เพียงพอ ก็จะช่วยให้เราห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บได้คะ