ใครวางแผนว่าจะไปเที่ยวนอนกางเต้นท์กันบ้างคะ แล้วซื้อ เต้นท์ กันมาหรือยัง แต่ก่อนจะซื้อเต้นท์มาทำความรู้จักส่วนต่างของเต้นท์กันก่อนดีกว่าคะ
เต้นท์ นั้นประกอบไปด้วยส่วนต่างๆ ได้แก่
- ฟลายชีท คือส่วนที่คลุมอยู่ด้านบนของเต้นท์ ทำหน้าที่ลดการเกิดหยดน้ำในเต้นท์ ช่วยกันฝน ลม และแสงแดดให้กับตัวเต้นท์
- ตัวเต้นท์ คือส่วนที่เราเข้าไปนอนด้านใน ทำหน้าที่กันสัตว์ แมลง ลม ฝน นิยมทำจากวัสดุผ้าใยสังเคราะห์เคลือบกันน้ำ
- พื้นเต้นท์ คือส่วนที่ปูกับพื้น ทำหน้าที่ป้องกันน้ำจากพื้น
- เสาเต้นท์ เป็นโครงสร้างของเต้นท์ ทำให้เต้นท์เป็นรูปร่าง นิยมใช้เป็นไฟเบอร์ใยแก้ว อลูมิเนียม
- สมอบก ทำหน้าที่ยึดเต้นท์ไว้กับพื้น นิยมทำจากเหล็กชุบซิงค์ หรืออลูมิเนียมเกรดอากาศยาน สมอบกมีด้วยกันหลายแบบ เช่น รูปเข็ม รูปฉาก รูปตัวไอ แบบถุงผ้า และแบบวัสดุไข้วตัวเอ็กซ์
เราจะเลือก เต้นท์ อย่างไรให้เหมาะสมและก็มีหลักการง่ายๆ
1. ฤดูกาล การเลือกเต้นท์ที่ใช้ให้เหมาะสมกับช่วงฤดูที่คุณเดินทางไปเทียวย่อมเป็นผลดีต่อตัวคุณเอง อย่างเช่น
- ฤดูฝน – ฤดูหนาว ถ้าคุณไปนอนกางเต้นท์บนอุทยานในช่วงหน้าฝน สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือน้ำฝน จึงควรเลือกเต้นท์ที่เคลือบสารกันน้ำ หรือเป็นเต้นท์ที่มีฟลายชีทแบบกันน้ำ ซึ่งส่วนมากการเคลือบสารกันน้ำจะอยี่ 2000 MM. ซึ่งเพียงพอสำหรับอากาศเมืองไทย ซึ่งเต้นท์แบบนี้ก็สามารถนำมาใช้ได้กับในช่วงฤดูหนาวเช่นกัน เพราะในช่วงกลางคืนจะมีน้ำค้างมาก และกันหนาวได้เป็นอย่างดีเลยคะ
- ฤดูร้อน คุณควรเลือกเต้นท์ที่มีลักษณะโปร่ง มีหน้าต่างตาข่าวยเยอะๆ เลือกซื้อเต้นท์ที่สามารถถอดฟลายชีทออกได้ยิ่งดี เพราะจะได้ไม่ร้อนจนเกินไป หรือหากคุณไปเที่ยวทะเลทรายก็ควรเลือกเต้นท์ที่สามารถป้องกันลมุได้ดี สมอบกแข็งแรง และถ่ายเทอากาศได้ดี เป็นต้น
2. จำนวนคน การเลือกซื้อเต้นท์ต้องคำนึงถึงจำนวนคนที่จะนอนได้ต่อเต้นท์ หากคุณเดินทางกันหลายคน ไม่อยากแยกเต้นท์กันนอนก็ควรซื้อเต้นท์ที่มีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย เช่น นอนกัน 3 คน ก็ควรเลือกเต้นท์ที่นอนได้ 4 คน เป็นต้น เผื่อที่ให้นอนกันได้สบาย ไม่แออัด รวมทั้งมีพื้นที่ไว้สำหรับวางสัมถาระของแต่ละคนอีกด้วยคะ ขนาดของเต้นท์ที่ใหญ่ย่อมตามมาด้วยน้ำหนักที่มาก อาจจะทำให้คุณล้าขณะเดินทาง แต่ถ้าอยากได้เต้นท์แบบน้ำหนักเบาๆก็คงจะต้องลงทุนสูงเสียหน่อยคะ
3. กิจกรรมที่ทำ หากคุณเดินทางด้วยรถยนต์ แล้วนำเต้นท์ขึ้นรถไป ถึงจุดหมายก็นำออกมากลาง คุณก็ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนักเลยคะ แต่หากคุณต้องแบกเต้นท์เดินเข้าป่าไกลๆ ก็ควรเลือกเต้นท์ที่มีขนาดไม่ใหญ่ น้ำหนักเบาแต่แข็งแรง ทำให้ไม่เหนื่อยจะเกินไปและไม่คล่องตัวขณะเดินทางอีกด้วย
4. ความแข็งแรง ทนทานต่อสมภาพอากาศ บางครั้งเราไม่สามารถคาดเดาสภาพอากาศที่แท้จริงได้ หน้าฝนก็จะมีฝนตกตลอดเวลา แต่อาจเกิดพายุฝนเมือ่ไหร่ก็ได้ ดังนั้นความแข็งแรงของเต้นท์ เสาเต้นท์ ต้องดี มีคุณภาพ ไม่ใช่ว่าฝนตกแรงๆ ลมกรรโชก เสาเต้นท์หักก็ไม่ไหวนะคะ หรือแม้แต่รูปทรงของเต้นท์ที่มีความโค้งมากๆ เสี่ยงกต่อการหักพังเมื่อเจอลมแรง เนื่องจากทรงของเต้นท์แบบนี้จะเป็นตัวรับลมเต็มๆ
5. การใช้งาน ควรเลือกเต้นท์ที่กางง่าย ไม่ยุ่งยากจนเกินไป เต้นท์มีที่เป็นFree Standing คือเต้นท์ที่ทรงตัวเองได้ จะกางง่าย ตอกสมอบกไม่กี่ตัวก็เสร็จ และ Non-Free Standing คือเต้นท์ที่ต้องตกสมอบกยึดให้ดีเต้นท์ถึงจะทรงตัวอยู่ได้ ซึ่งกางยากกว่า
คราวนี้ก็ไม่อยากแล้วหากต้องเลือกซื้อเต้นท์ใช่ไหมคะ
ข้อมูลอ้างอิง
เลือกเต๊นท์ให้เหมาะกับการใช้งาน: thailandoutdoor.com
เทคนิคการเลือกซื้อเต้นท์: thailandexhibition.com
ข้อดี และ วิธีการเลือก เต็นท์สำหรับนักเดินทาง: outdoor-sleeping.com
ความรู้เรื่องเต็นท์: camping.in.th
