รู้ได้อย่างไรว่าเป็นภูมิแพ้ ชนิดอาการ โรคภูมิแพ้ ที่แสดงออก

0
1003

โรคภูมิแพ้ คือ การที่ร่างกายเกิดปฏิกิริยากับสารก่อภูมิแพ้ ทำให้เกิดการหลั่งสารเคมีหลายชนิด สารเหล่านี้จะไปออกฤทธิ์ที่อวัยวะที่ตอบสนอง ซึ่งแต่ละคนจะมีอวัยวะตอบสนองต่างกันไป ถึงแม้จะได้รับสารก่อภูมิแพ้ชนิดเดียวกันก็ตาม โรคภูมิแพ้มีหลายประเภทขึ้นอยู่กับว่าจะเกิด อาการโรคภูมิแพ้ ที่อวัยวะส่วนใดของร่างกายและอาการที่แสดงออกก็อาจจะแตกต่างกันด้วย

โรคภูมิแพ้เราสามารถแบ่งได้ตามอวัยวะ / ระบบที่เกิดโรค ดังนี้

เกิดที่จมูก (Allergic rhinitis) อาการโรคภูมิแพ้ที่แสดงออกคือ มีน้ำมูกไหลมาก จาม คัดจมูก แน่นจมูก หายใจไม่คล่อง เยื่อบุจมูกบวมและมีสีซีด เยื่อบุในโพรงหลังจมูกบวม ต่อมแอดีนอยด์โต มีตุ่มแดงตามผนังคอซึ่งเกิดจาการระคายเคืองของผนังคอจากน้ำมูกที่ไหลงลงคหรือจากการหายใจทางปาก อาจเกิดริดสีดวงจมูกได้ การที่ไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนตามได้ เช่น โรคหูชั้นกลางอักเสบ โรคไซนัสอักเสบ ริดสีดวงจมูก นอนกรน หรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

โรคที่มักพบร่วมกับการเกิดภูมิแพ้ที่จมูก คือ

  • หูชั้นกลางอักเสบ คือเกิดการอักเสบที่หูชั้นกลาง มีสารคัดหลั่งคั่งอยู่ภายในหู อาจมีลักษณะเป็นน้ำใส มูก หรือหนอง ผู้ป่วยจะได้ยินไม่ชัดเจ เนื่องจากปฏิกิริยาภูมิแพ้ที่เยื่อบุจมูกทำให้เกิดการบวม และท่อที่เชื่อมระหว่างหูชั้นกลางและโพรงหลังจมูกตัน
  • ไซนัสอักเสบ และริดสีดวงจมูก เมื่อเยื่อบุจมูกบวม ทำให้รูเปิดของไซนัสอุดตันและเกิดการคั่งของสารคัดหลั่งภายในไซนัส ทำให้นื่อเยื่อไซนัสบวม ติดเชื้อ
  • โรคเยื่อจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หรือโรคแพ้อากาศ มีอาการน้ำมูกไหล คันจมูก คันตา คันในลำคอ จาม อาจมีอาการปวดศีรษะ เสียงเปลี่ยน น้ำมูกไหลลงคอ หูอื้อ หรือมีเสียงดัง ในหู

เกิดที่ระบบทางเดินหายใจ หลอดลม จะมีอาการหลอดลมหดเกร็ง หอบ แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก ไอ มีเสมหะเหนียวและข้น กล่องเสียงบวม เวลาหายใจมีเสียงดังวี๊ดๆ โรคที่มักพบ คือ โรคหืด มีอาการหลอดลมหดเกร็งเนื่องจากกล้ามเนื้อรอบหลอดลมหดเกร็ง มีเสมหะมาก ผนังหลอดลมบวม ทำให้หายใจลำบาก

เกิดที่ผิวหนัง (Allergic skin disease) อาการโรคภูมิแพ้ของผู้ป่วยจะมีผื่น คันเรื้อรังบริเวณใบหน้า ข้อพับแขน-ขา หลังจากนั้นจะมีอาการบวม เป็นตุ่มนูนคล้ายยุงกัด บางครั้งเป็นผื่นหนา ผิวหนังอักเสบ โรคที่พบเมื่อเกิดภูมิแพ้ที่ผิวหนัง คือ

  • โรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ ประมาณ 80-90 เปอร์เซนต์ มักเกิดในเด็กในช่วงปีแรกๆ จะมีผื่นคันตามตัว หน้า ผิวหนังแห้ง อักเสบ เด็กที่เป็นโรคนี้มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจ โรคหืดเมื่อโตขึ้นได้ ส่วนมากเกิดจากการแพ้อาหาร นม
  • โรคผื่นเอ็กซีมา มีผื่นสีแดงขึ้นที่ใบหน้า ข้อพับของเข่า ศอก ศีรษะ คัน หากเป็นนานๆ ผิวหนังจะแห้งและหนาขึ้น
  • โรคลมพิษ เป็นปฏิริยาของเส้นเลือดในชั้นผิวหนัง เกิดผื่นสีแดงนูน มีขอบเขตชัดเจน คัน อาจมีอาการบวมที่หนังตา ริมฝีปาก อวัยวะเพศ ผื่นจากลมพิษจะหายใน 24 ชั่วโมง แต่ถ้าเป็นนานเกิน 24 ชั่วโมงให้สันนิฐานว่าอาจเป็นโรคอื่น

เกิดที่ตา (Eye allergy) อาการโรคภูมิแพ้จะมีอาการคันตา เคืองตา น้ำตาไหลบ่อย ตาแดง แสบตา ขี้ตาเยอะ ตาสู้แสงไม่ได้ หากอาการแพ้รุนแรงอาจทำให้ตาพร่ามัวจนถึงตาบอดได้ เยื่อบุตาอักเสบ ทำให้เกิดโรคเยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้ และมักมีอาการร่วมกับโรคภูมิแพ้อื่นๆ เช่นโรคจมูกอักเสบหรือผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้

เกิดขึ้นที่ระบบทางเดินอาหาร จะมีอาการท้องร่วง อาเจียน น้ำหนักตัวลด ตัวซีด เวียนศีรษะปวดท้อง ท้องอืด มีลมในท้อง ผื่นขึ้นตามผิวหนัง คัน เกิดการบวมที่ปาก หน้า ลิ้น คอ หากแพ้รุนแรงอาจทำให้หายใจลำบากเนื่องจากหลอดลมหดเกร็ง ความดันโลหิตลดลงจนช็อคได้ ส่วนมากเกิดจาการแพ้อาหารหรือยา

เกิดขึ้นพร้อมกันหลายระบบ หรือ ช็อคภูมิแพ้ เป็นอาการโรคภูมิแพ้ที่น่ากลัวและรุนแรงที่สุด มีอาการแสดงออกทั่วร่างกาย อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน มีไข้ ต่อมน้ำเหลืองโต ดีซ่าน ข้อบวม ไตอักเสบ การช็อค ส่วนมากเกิดจากการแพ้ยาหรือสารที่กินเข้าไป หากไม่สามารถพบแพทย์ได้ทันเวลาอาจเสียชีวิตได้

เนื่องจากอาการ โรคภูมิแพ้ ที่เกิดขึ้นในอวัยวะต่างๆ อาจมีอาการแสดงคล้ายคลึงกัน หรืออาจจะเกิดอาการแพ้ที่อวัยวะหนึ่งแต่ไปแสดงผลที่อวัยวะหนึ่ง เช่น แพ้อาหาร อาจทำให้ตาบวมได้ ดังนั้นการวินิจฉัยอาการของโรคภูมิแพ้ที่ดีที่สุดคือการพบแพทย์ผู้ชำนาญด้านโรคนี้โดยเฉพาะ หากเราหายามาทานเองอาจไม่ตรงกับโรคที่เราเป็นก็ได้นะคะ เสียไม่คุ้มได้เลยคะ