โรคภูมิเพี้ยน (Autoimmune Disease) รู้จักโรคนี้กันหรือยัง

0
2324

โรคภูมิเพี้ยน หรือ โรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง (Autoimmune disease) คือโรคที่เกิดจากภูมิต้านทานทำงานผิดปกติหันมาทำลายร่างกายตัวเอง โดยปกติแล้วภูมิต้านทานจะมีหน้าที่คอยต่อต้านสิ่งแปลกปลอม เช่น เชื้อโรค หรือสารเคมี ที่เข้าสู่ร่างกายของเรา ซึ่งจะสร้างกลไกไม่ให้สิ่งแปลกปลอมเหล่านั้นทำอันตรายต่อร่างกายได้ แต่เมื่อภูมิต้านทานสูญเสียความสามารถในการแยกแยะระหว่างเซลล์ที่เป็นของตนเอง กับเซลล์ของสิ่งแปลกปลอม ทำให้ภูมิคุ้มกันหันมาโจมตีร่างกายตนเอง โดยสร้างโปรตีนที่เรียกว่า ออโตแอนติบอดี้ สารนี้จะทำให้เกิดการอักเสบและความเสียหายในอวัยวะที่ถูกทำร้าย และหากอวัยวะนั้นเป็นส่วนที่สำคัญก็เสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้

โรคภูมิเพี้ยนโรคภูมิเพี้ยนนั้นมักมีอาการแค่เหนื่อย เพลีย อ่อนล้าง่าย มึน มีไข้ต่ำๆ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดข้อ ซึ่งเป็นอาการเบื้องต้นเท่านั้น จนอาการเริ่มรุนแรง ก็จะมีอาการแสดงออกที่อวัยวะที่ถูกภูมิคุ้มกันทำลาย บางครั้งกว่าอาการจะแสดงว่าเป็นโรคภูมิแพ้ทำลายตนเองประเภทไหน ก็ใช้เวลาพอนาน อาจทำให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาไม่ทันท่วงที

เนื่องจากโรคภูมิเพี้ยนยังไม่สามารถหาสาเหตุที่ชัดเจนได้ มีเพียงข้อสันนิฐานว่าอาจเกิดจากพันธุกรรม การติดเชื้อไวรัส/แบคทีเรียบางชนิด ความเครียด สารพิษ เป็นต้น ส่งผลให้การรักษาโรคเป็นไปเพี่อมุ่งเน้นการบรรเทาอาการเจ็บปวดและลดอาการอักเสบเท่านั้น ในผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรงจะใช้ยากลุ่มเอ็นเสด (NSAIDs :Non-steroidal anti-inflammatory drugs) คือยาแก้ปวดและต้านการอักเสบที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ ยากลุ่มนี้จะมีผลข้างเคียงโดยก่อการระคายเคืองและแผลในกระเพาะอาการ ทำให้เลือดออกในทางเดินอาหารได้ การรับประทานยานกลุ่มนี้จำเป็นต้องทานหลังอาหารทันทีคะ บางครั้งแพทย์มักจ่ายยาเคลือบกระเพาะให้ผู้ป่วยมาด้วย

แต่หากอาการรุนแรงอาจต้องใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์และยากดภูมิต้านทานร่วมด้วย ซึ่งมีผลข้างเคียงสูง เช่น สเตียรอยด์ จะทำให้ หน้าบวม ตัวบวม กระดูกพรุน เสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน ติดเชื้อง่าย(เนื่องจากยาไปกดภูมิคุ้มกันที่ทำงานปกติและไม่ปกติในเวลาเดียวกัน) ส่วนยากดภูมิคุ้มกันอาจทำให้เม็ดเลือดขาวต่ำ ทำลายตับ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง

โรคภูมิเพี้ยนนั้นมีมากกว่าร้อยชนิด สามารถแบ่งเป็นกลุ่มๆได้

1. โรคที่มีการทำลายจำเพาะอวัยวะ เช่น

  • การทำลายตับอ่อนในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1
  • การทำลายเซลล์เยื่อบุลำไส้ ในผู้ป่วยโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง
  • การทำลายเม็ดสีของผิวหนังในผู้ป่วยโรคด่างขาว
  • การทำลายปลอกหุ้มเซลล์ประสาทในสมองและไขสันหลังในผู้ป่วยโรคฮาชิโมโต ซึ่งเป็นโรคเกี่ยวกับต่อมไททรอยด์

2. โรคที่มีการทำลายอวัยวะหลายระบบ เช่น

  • โรคเอส แอล อี (SLE) เป็นโรคที่ทำลายเยื่อบุผิวหนัง ข้อต่อ และอวัยวะภายใน อย่าง ไต หัวใจ สมอง เม็ดเลือดแดง
  • โรครูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis) เป็นโรคที่ทำลายข้อต่อต่างๆในร่างกาย ทำให้ปวด บวม อักเสบ หากอาการรุนแรงจะทำให้เกิดข้อผิดรูปและพิการได้
  • โรคหนังแข็ง (Scleroderma) เป็นโรคที่มีการทำลายเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เช่น ผิวหนังชั้นหนังแท้ ผู้ป่วยจะมีอาการตึงที่ใบหน้า แขน ขา มือ ปลายนิ้วขาดเลือด อากาศเย็นจะยิ่งทำให้ปวด หากเกิดที่ปอดจะทำให้เกิดพังผืดทำให้หายใจลำบากและเสียชีวิตได้

ถึงแม้ว่าโรคแพ้ภูมิตัวเอง (โรคภูมิเพี้ยน) ยังไม่วิธีป้องกันไม่ให้เกิดโรคได้ แต่เราสามารถลดความรุนแรงของโรคหรือลดการกำเริบของโรคได้ ด้วยการหลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดโรค เช่น การสูบบุหรี่ แสงแดด สารเคมี ยาคุมกำเนิดที่มีส่วนของฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง เป็นต้น ขึ้นอยู่กับว่าเป็นโรคภูมิเพี้ยนชนิดใดด้วยนะคะ แล้วหันมาดูแลตนเองให้มากขึ้น รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และปรุงสุกใหม่ ดื่มน้ำสะอาด พักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตใจให้ร่าเริง แจ่มใส ไม่เครียด และพบแพทย์เมื่อเกิดอาการผิดปกติกับร่างกายตนเองคะ