สะเดาน้ำปลาหวาน ปลาดุกย่าง เมนูอร่อยมีประโยชน์ที่ต้องลอง

0
1379

สะเดา มี 3 ชนิด และมีคุณสมบัติคล้ายๆกัน แต่สะเดาที่นำนิยมนำมารับประทานคู่กับน้ำปลาหวานและปลาดุกย่าง ก็คือ สะเดาไทย สะเดาน้ำปลาหวาน จัดว่าเป็นเมนูเพื่อคนรักสุขภาพจริงนะคะ ยิ่งรับประทานร่วมกับปลาดุกย่างก็ยิ่งเข้ากันได้ดี

สะเดา
ภาพประกอบจาก pixabay.com

ชนิดของสะเดามีกี่ชนิด อะไรบ้าง

  • สะเดาอินเดีย มีลักษณะคล้ายสะเดาไทย แต่ขอบใบจะหยักและปลายแหลมกว่า โคนใบเบี้ยวและปลายใบเรียวกว่าสะเดาไทย
  • สะเดาช้าง (สะเดาเทียม) ขนาดใบใหญ่กว่าสะเดาชนิดอื่นถึง 2 เท่า ขอบใบเรียบกว่าเล็กน้อย
  • สะเดาไทย (สะเดาบ้าน) มีขอบใบหยักเหมือนฟันปลา ปลายหยักทู่มน โคนใบเบี้ยว ปลายใบแหลม สะเดาไทยมีด้วยกัน 2 ชนิด คือ สะเดามันและสะเดาขม ถ้าเป็นสะเดามันจะมีดอกสีขาว ส่วนสะเดาขมจะมีดอกสีแดง

การลวกและวิธีเลือกสะเดา

อาหารจะอร่อยได้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการเลือกชนิดวัตถุดิบที่ดี ที่เหมาะสม หากอยากรับประทานสะเดา-น้ำปลาหวาน-ปลาดุกย่างอร่อยๆก็จำเป็นต้องรู้วิธีและเคล็ดลับในการเลือกสะเดากันเสียก่อน ควรเลือกสะเดาที่สดและมีดอกด้วยจะยิ่งอร่อยคะ

การลวกสะเดาก็เพียงนำหม้อใส่น้ำเปล่า หรือน้ำซาวข้าวก็ได้คะ นำไปตั้งไฟ จนเดือดพล่าน ใส่เกลือลงไปเล็กน้อยจะช่วยให้สีของสะเดายังดูสด สวน แล้วจึงใส่สะเดาลงไปลวกประมาณ 30 วินาที แล้วตักขึ้น แช่ในน้ำเย็นจัดประมาณ 5 นาที เมื่อครบกำหนดแล้ว ให้ตักสะเดาขึ้นให้สะเด็ดน้ำ เป็นอันจบวิธีการลวกสะเดาคะ

คุณค่าทางโภชนาการของสะเดา

ข้อมูลจากกรมอนามัยเผยว่า สะเดาในปริมาณ 100 กรัม นั้นมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ประกอบไปด้วย คาร์โบไฮเดรต 12.5 กรัม เส้นใย 2.2 กรัม โปรตีน 5.4 กรัม ไขมัน 0.5 กรัม รวมให้พลังงานเพียง 76 กิโลแคลอรี่ และยังมีสารอาหาร อาทิ เบต้าแคโรทีน แคลเซียม วิตามินซี ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก วิตามินบี1 และบี 2 เป็นต้น

มีคำโบราณกล่าวไว้ว่า ให้กินสะเดาในช่วงต้นฤดูหนาว เพราะเชื่อกันว่า “กินสะเดาก่อนเป็นไข้ ช่วยป้องกันไข้ได้ กินสะเดาเมื่อเป็นไข้แล้ว รักษาให้หายไข้ได้” คนไทยจึงนิยมรับประทานสะเดาเพื่อสุขภาพถึงแม้ว่าจะเป็นผักที่มีรสขม มัน ก็ตาม และเพื่อให้รับประทานสะเดาได้ง่ายขึ้น จึงมีการใช้น้ำปลาหวาน มาราดเพื่อกลบความขมของมัน ถือว่าเป็นแนวความคิดดีๆที่คนรุ่นเราได้รับการถ่ายทอดมากจากบรรพบุรุษ

สรรพคุณของสะเดา

สะเดามีสรรพคุณช่วยเรียกน้ำย่อยอาหาร ทำใหกระเพาะอาหารย่อยอาหารได้ดีขึ้น จึงทำให้เจริญอาหาร ลดการเบื่ออาหาร ช่วยรักษาโรคซูบผอมจากการขาดสารอาหารหรือโรคซูบผอมที่เป็นโรคแทรกซ้อนจากโรคอื่นๆ  ช่วยบำรุงน้ำดี ขับน้ำดีให้ตกสู่ลำไส้มากขึ้น ซึ่งน้ำดีจะทำหน้าที่ในการย่อยไขมัน ทำให้ไขมันถูกย่อยมากขึ้นตาม ช่วยบำรุงธาตุไห ขับลมได้ดี

ยังไม่หมดคะสำหรับคุณสมบัติดีๆของสะเดา สะเดามีสารเคมีกลุ่มลิโมนอยด์ ได้แก่ สารเกคุนิ และ นิมโบลิดี ที่สามารถช่วยยับยั้งเชื้อฟัลซิปารัม (P.Falciparum) เป็นเชื้อไข้มาลาเรียดื้อยาชนิดหนึ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตามสะเดาจัดว่าเป็นยาเย็น ซึ่งอาจทำให้ผู้ที่ไม่ถูกกับยาเย็นจะมีอาการท้องอืด เกิดลมในกระเพาอาหาร ไม่ควรใช้กับสตรีที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์และอยู่ในช่วงให้นมบุตร จะทำให้ไม่มีน้ำนม สะเดามีฤทธิ์ในช่วยลดความดันโลหิต จึงต้องระวังสำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำอยู่แล้ว อาจส่งผลให้หน้ามืด เป็นลมวูบได้คะ เนื่องด้วยสะเดาช่วยเรียกน้ำย่อยให้ออกมามากขึ้นจึงไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคกระเพาะหรือโรคที่เกี่ยวกับช่องท้อง กรดไหลย้อย คะ

สะเดาเป็นพืชพื้นบ้านของคนไทยมานาน ปลูกกันตามคันนา ตามสวน ปลูกง่าย โตเร็ว แถมยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย ต้องไม่พลาดลองเมนูนี้เสียแล้ว

ข้อมูลอ้างอิง

สะเดามากคุณค่า เกินคาดเดา: ku.ac.th
สะเดาสมุนไพรรสขม ยาดีที่ควรมีไว้ใกล้ตัว: design.drr.go.th
สะเดาลดอาการท้องผูก เป็นยาถ่ายพยาธิได้ ลดกลิ่นปาก รักษาโรคเบาหวาน: healthy-diary.com